ข้อควรระวังเกี่ยวกับประตูฮวงจุ้ย



 

ประะตูบ้านมีเอาไว้เปิดเข้า-เปิดออก และก็ไม่ได้มีแค่ประตูเดียว มีทั้งประตูรั้วบ้าน ประตูหน้าบ้าน ประตูหลังบ้าน ประตูข้างบ้าน เยอะแยะมากมาย เพราะฉะนั้นแล้วตามหลักฮวงจุ้ยที่ดีนั้นคุณควรต้องรู้ว่าประตูอย่างไรถึงจะดีกับผู้ที่อยู่อาศัยข้อควรระวังเกี่ยวกับประตู


1. ประตูเรียกทรัพย์ควรเปิดเข้าไปในตัวบ้านเพื่อเชื้อเชิญสิ่งดีๆ เข้ามาในบ้าน มิใช่ประตูผลักออก ถ้าไม่สามารถทำประตูเปิดเข้าได้ ก็ควรทำเป็นประตูบานเลื่อนแทนจะดีกว่า

2. ประตูรั้วและประตูบ้านไม่ควรมีเสาไฟฟ้าเล็งตรงกลางประตูพอดี เพราะจะทำให้ผู้อยู่อาศัยในบ้านมีแต่ความทุกข์เหนื่อยยากลำบากกาย ใจ และเจ็บป่วยไข้แบบไม่สามารถหาสาเหตุได้ ทำกิจการค้าใดๆ ก็เหนื่อยยากลำบากกว่าปกติธรรมดาแม้นบ้านใดมีเสาไฟฟ้าตรงกับประตูควรย้ายเสาออกเสีย ถ้าย้ายเสาไม่ได้ก็ย้ายประตูไปทางอื่นแทน ความทุกข์โศรก เหน็ดเหนื่อยกายใจจะทุเลาเบาบางลง

3.ประตูรั้วบ้าน และประตูบ้าน 2 หลังหันหน้าประจัญกัน เล็งกันพอดี การหันหน้าชนกันเปรียบเสมือน พร้อมเสมอที่จะประจัญบานเข้าหากัน จึงเป็นฮวงจุ้ยที่ไม่ดี ไม่เหมาะสำแก่การอยู่อาศํย เพราะจะส่งผลให้ เพื่อนบ้านทะเลาะเบาะแว้งกันเสมอๆ ไม่ปรองดองรักใคร่กัน มีแต่จะเขม่นกันปะทะกันตลอดเวลา

4. ประตูหน้าบ้านใหญ่กว่าประตูหลังบ้าน ดี สามารถกักเก็บทรัพย์สินเงินทองได้มากกว่าประตูหน้าเล็ก หลังใหญ่ เปรียบเสมือนถุงทอง ปากถุงกล้างรับเงินทองเข้าได้ดี

5. ประตูทางเข้าตรงกับบันใดบ้าน กรณีนี้อาจารย์ประสบพบเจอมาในหลายๆ เคสที่ได้มีโอกาสไปตรวจฮวงจุ้ยให้ลูกศิษย์ เคสที่หนักที่สุดถึงขั้น สามีเจ้าของบ้านเสียชีวิต ส่วนตัวเจ้าของบ้านเองก็เจ็บหนักเกือบไม่รอดเช่นกัน เพราะฉะนั้นความรุนแรงจึงมีมาก เป็นลักษณะของความรุนแรงของพลังทั้งทางบวกและทางลบ สามารถทำให้คนเจริญรุ่งเรืองสุดๆ หรือดับวูบได้ในเวลาอันรวดเร็วว่องไว ซึ่งส่งผลให้ ผู้อยู่อาศัยมีชีวิตที่โลดโผนเกินไป ไม่สามารถคาดการณ์ได้ จึงไม่ควรที่จะให้บันใดตรงกับประตูหน้าบ้านมากเกินไป เพื่อลดแรงปะทะที่จะเกิดกับชีวิตของผู้อยู่อาศัย
6. ประตูห้องน้ำตรงกับเตียงนอน กลางเตียง หรือปลายเตียง ไม่ดีอย่างยิ่งไม่ถูกสุขลักษณะเพราะความชื้นของห้องน้ำจะระเหยออกมากระทบตัวของผู้นอนทุกคืนทำให้เกิดอาการเจ็บป่วย ออดๆ แอดๆ แบบไร้สาเหตุได้ จึงควรหลีกเลี่ยง